AUSTRALIA
เหตุผลดีๆ ที่ควรเรียนต่อที่ออสเตรเลีย
เหตุผลดีๆ ที่ควรเรียนต่อที่ออสเตรเลีย
ระบบการศึกษาของออสเตรเลียมีชื่อเสียงโด่งดังและได้ชื่อว่ามีประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับต้นๆของโลกจากการประเมินผลสถานศึกษาและจัดอันดับ มหาวิทยาลัยและโรงเรียนในประเทศออสเตรเลียหลายแห่ง ก็ล้วนแล้วแต่ติดอันดับโลกอยู่เป็นประจำ
ออสเตรเลียมีมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกหลายแห่งมหาวิทยาลัยของออสเตรเลีย 19 แห่งติดอันดับมหาวิทยาลัยดีที่สุด 400 อันดับแรกใน Times Higher Education World University Rankings ปี 2013/2014
ระบบการศึกษาของออสเตรเลียได้สร้างบุคลากรคุณภาพระดับโลกตั้งแต่นักวิทยาศาสตร์ นักออกแบบ นักการศึกษา เจ้าของกิจการ ศิลปิน ฯลฯ ในบรรดาผู้ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลกอย่างรางวัลโนเบล (Nobel Prize) ก็มีชาวออสเตรเลียถึง 10 คน เหล่านี้สะท้อนถึงคุณภาพการศึกษาอันแข็งแกร่งของประเทศ
ถ้าคุณกำลังมองหาประเทศที่น่าอยู่ ผู้คนเป็นมิตร เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และมีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่ดี ออสเตรเลียคือคำตอบที่ใช่
ออสเตรเลียถูกจัดให้เป็นประเทศที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในโลกเป็นอันดับ ที่ 4 (Prosperity Index 2012) และมีเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักเรียนนักศึกษาติดอันดับถึง 5 เมืองจาก 30 เมืองทั่วโลก (Top University Rankings 2012) สำหรับคนที่ตั้งใจจะไปเรียนที่ออสเตรเลีย คุณมั่นใจได้เลยว่าคุณจะชอบชีวิตในประเทศแห่งนี้
ด้วยอากาศที่อุ่นสบาย อาหารรสชาติถูกปาก ทำให้นักเรียนต่างชาติปรับตัวได้ง่าย ที่สำคัญยังเหมาะกับนักศึกษาที่ต้องการเรียนและทำงานพิเศษไปด้วยเพราะมีงานพิเศษให้เลือกทำหลากหลาย ที่นี่จึงเหมาะกับการเดินทางไปหาประสบการณ์ด้านการศึกษาและการใช้ชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
แต่…อย่าเชื่อจนกว่าคุณจะได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง
ค่าครองชีพในออสเตรเลียถือว่าต่ำกว่าประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ประเทศแถบยุโรป
ลองเปรียบเทียบกันดู…
ปัจจุบัน (ธันวาคม 2014) 1 $ AUD อยู่ที่ประมาณ 27 บาท ขณะที่ 1 USD อยู่ที่ประมาณ 33 บาท ส่วน 1 EUR มีค่าประมาณ 40 บาท
ออสเตรเลียจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการไปเรียนต่ออย่างไม่ต้องสงสัย
“ออสเตรเลีย ประเทศที่ฉลองคริสต์มาสกลางฤดูร้อน”
ภูมิประเทศ
ออสเตรเลียเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งทวีป โดยตั้งอยู่บนซีกโลกใต้ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทย ประกอบด้วย 6 รัฐ และ 2 มณฑล ได้แก่ มณฑลนครหลวงออสเตรเลีย นิวเซาธ์ เวลส์ มณฑลตอนเหนือ วิกตอเรีย ควีนสแลนด์ เซาธ์ออสเตรเลีย เวสเทิร์นออสเตรเลีย และแทสมาเนีย มีกรุงแคนเบอร์ร่าเป็นเมืองหลวง
ขนาดของประเทศวัดจากทิศเหนือลงมายังทิศใต้ได้ 3,700 กิโลเมตร ส่วนทิศตะวันออกไปทิศตะวันตกได้ 4,000 กิโลเมตร ถือเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับหกของโลก รองลงมาจากรัสเซีย แคนาดา จีน สหรัฐอเมริกา และบราซิล
เนื่องจากความกว้างใหญ่ของประเทศ ทำให้สภาพภูมิศาสตร์มีความหลากหลาย ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงาม มีอุทยานแห่งชาติมากกว่า 500 แห่งและพื้นที่อนุรักษ์มากกว่า 2,700 แห่ง ตั้งแต่เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าไปจนถึงเขตอนุรักษ์ของชาวพื้นเมืองอะบอริจิ้น นอกจากนี้ยังมีมรดกโลกของ UNESCO 17 แห่ง ซึ่งมากกว่าทุกประเทศในโลก เช่น Great Barrier Reef อุทยานแห่งชาติ Kakadu หมู่เกาะ Lord Howe ป่าแทสเมเนีย เกาะเฟรเซอร์ และซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์
และเนื่องจากตั้งอยู่ทางซีกโลกใต้ ทำให้ออสเตรเลียมีฤดูตรงข้ามกับประเทศทางซีกโลกเหนืออย่างสิ้นเชิง โดยฤดูร้อนเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมไปถึงกุมภาพันธ์
ดังนั้น ถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์การฉลองคริสต์มาสกลางฤดูร้อน ต้องมาที่ออสเตรเลียเท่านั้น !
ภูมิอากาศ
ประชาการ
ภาษา
เวลา
ชาวออสซี่มีวัฒนธรรมการใช้ชีวิต และธรรมเนียมปฏิบัติที่แตกต่างจากคนไทยหลายเรื่อง มีเรื่องไหนบ้างที่คุณควรรู้ไว้ก่อนไปเรียนที่นั่น
อังกฤษสำเนียงออสซี่
ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักก็จริง แต่ภาษาอังกฤษของคนที่นี่เป็นแบบสำเนียงออสซี่ ซึ่งคนไทยไม่คุ้นเท่าสำเนียงอังกฤษ หรือสำเนียงอเมริกัน การออกเสียงจึงค่อนข้างฟังยากและมีศัพท์สแลงที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมแนะนำว่า ก่อนไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย คุณควรฝึกหูให้ชินสำเนียงออสซี่ไปบ้าง อาจจะดูคลิปต่างๆ จากอินเทอร์เน็ต หรือหาหนังสนุกๆ ที่พูดภาษาออสซี่มาดูก็ได้
รู้จักการทักทาย
ชาวออสซี่ชอบทักทายด้วยคำว่า “G’day” หรือ “G’day, mate” (ออกเสียงว่า “ไม้ท์”) ซึ่งคำว่า “mate” นี้ มักใช้แทนชื่อของคู่สนทนา โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่รู้จักชื่อของคู่สนทนาหรือจำชื่อไม่ได้ และถ้ามีคนทักคุณว่า “How’s it going?” หรือ “How are you going” เขาไม่ได้ถามว่าคุณจะไปอย่างไร แต่เป็นคำทักทายว่าเป็นยังไงบ้าง ก็ให้ตอบไปว่า “Not too bad” พร้อมกับถามกลับไปด้วยคำถามเดียวกันนี้ การทักทายแบบนี้ถือว่าสุภาพที่จะใช้ในการทักทายทั่วไป หรือแม้แต่กับคนแปลกหน้า
จับมือทักทายให้แน่นๆ
ในการทักทายกันด้วยการจับมือ ควรจับมืออีกฝ่ายแน่นๆ เพราะการจับมือเพียงเบาๆนั้นเปรียบเสมือนการยื่นปลาตายให้อีกฝ่าย ถือว่าไม่ค่อยสุภาพนัก และควรสบตาอีกฝ่ายในระหว่างการจับมือด้วย เพราะถือว่าเป็นการแสดงความเคารพด้วย ปกติผู้หญิงจะไม่นิยมทักทายด้วยการจับมือกันยกเว้นในกรณีทางธุรกิจ ปกติจะจูบแก้มกันในการทักทาย ซึ่งรวมทั้งการทักทายระหว่างชายกับหญิงด้วย
ไม่จำเป็นต้องให้ทิป
การให้ทิปที่ออสเตรเลียไม่ใช่เรื่องจำเป็น ปกติตรงแคชเชียร์จะวางโถใส่เงินทิปอยู่แล้ว เพราะการให้ทิปต่อหน้านั้นอาจสร้างความลำบากใจให้แก่พนักงาน ถ้าต้องการให้เงินทอนเป็นค่าทิปให้บอกว่า “Keep the change” โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเงินทอนนั้นเป็นเงินจำนวนเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะดูไม่น่าเกลียดถ้าจะให้เป็นทิปหากใช้ประโยคนี้
ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง
ได้ไปใช้ชีวิตต่างแดนที่ออสเตรเลียทั้งที ลองหาโอกาสลิ้มลองอาหารพื้นเมืองออสเตรเลียขนานแท้ อย่างShepherd Pie หรือจะเป็นอาหารจานโปรดของชาวออสซี่ เช่น Vegemite ส่วนถ้าของหวานต้องเป็น Lamington ขนมหวานออสเตรเลียนซึ่งนิยมทานกับน้ำชาหรือกาแฟยามบ่าย ใครได้ลองเป็นต้องติดใจ
สนุกกับปาร์ตี้บาร์บีคิว
ชาวออสซี่นิยมทำบาร์บีคิว และเรียกว่า “barbie” เมื่อมีใครรับเป็นเจ้าภาพจัดปาร์ตี้บาร์บีคิว เป็นเรื่องธรรมดามากที่เขาจะไม่ได้จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้ให้ ซึ่งเจ้าภาพอาจจะขอให้แขกนำอาหารและเครื่องดื่มมาด้วย ปกติจะใช้คำย่อว่า BYO ซึ่งย่อมาจาก “Bring your own” มีอีกคำที่ควรรู้ไว้ คือ คำว่า “Bring a plate” ซึ่งหมายถึง “potluck” หรือการที่แขกนำเอาอาหารมาร่วมรับประทานด้วยกัน
ชูสองนิ้วอย่างนี้…ห้ามเลย
ที่ออสเตรเลีย การชูสองนิ้ว (ยกนิ้วชี้กับนิ้วกลางแบบตัว V) แล้วหันหลังมือออก ถือว่าหยาบคายมาก เทียบเท่ากับการชูนิ้วกลางเลยทีเดียว